• Email: botong_hos@hotmail.com
  • Contact: 038-211148 038211288 03

Data centralization

General Spider Diagram Brainstorm Whiteboard in Orange Purple Pink Simple Colorful Style by Sitthichai Saengchoo

 

 

ประโยชน์ของการมีศูนย์กลางการเก็บข้อมูล (Data centralization)

ในยุคดิจิทัลที่ข้อมูลมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ การมีศูนย์กลางการเก็บข้อมูล (Data Center) ที่ดีจึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับองค์กรทุกขนาด Data Center เป็นสถานที่ที่องค์กรจัดเก็บข้อมูลทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลของพนักงาน ลูกค้า ผลิตภัณฑ์ กระบวนการทางธุรกิจ และอื่นๆ การมี Data Center ที่ดีจะช่วยองค์กรประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย เพิ่มความปลอดภัยของข้อมูล และช่วยให้องค์กรสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

ทำไมบริษัทต่าง ๆ จึงจำเป็นต้องใช้ดาต้าเซ็นเตอร์

บริษัทต่าง ๆ ต้องพึ่งพาระบบคอมพิวเตอร์อย่างมากเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจ ประการหนึ่งคือบริษัทต้องการสถานที่ที่ปลอดภัยพร้อมโครงสร้างพื้นฐานที่ยืดหยุ่น เช่น แหล่งจ่ายไฟสำรอง ระบบทำความเย็น และระบบเชื่อมต่อ ยกตัวอย่างเช่น บริษัทที่ต้องเข้าถึงข้อมูลจำนวนมาก (Big Data) จะประสบปัญหาใหญ่หากระบบต่าง ๆ หยุดทำงานอย่างที่ไม่ได้คาดมาก่อนและเกิดขึ้นเป็นประจำ บริษัทต่าง ๆ ยังต้องตรวจสอบให้มั่นใจว่าอุปกรณ์ของตนเองเหมาะสมกับวัตถุประสงค์การใช้งาน ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ไม่บานปลาย และป้องกันการถูกแฮ็กข้อมูลได้

ด้วยเหตุนี้ บริษัทจึงควรที่จะจ้างหน่วยงานภายนอกซึ่งเชี่ยวชาญด้านไอทีในการดูแลดาต้าเซ็นเตอร์ เพราะดาต้าเซ็นเตอร์ไม่ได้เป็นเพียงแหล่งพลังงานที่มีความน่าเชื่อถือสูงเท่านั้น แต่ยังเรื่องของระบบรักษาความปลอดภัย ความคุ้มค่า และการเข้าถึงอุปกรณ์ที่ล้ำสมัย
ปัจจัยในการพิจารณาทำเลที่ตั้งดาต้าเซ็นเตอร์

ปัจจัยแรก คือ ดาต้าเซ็นเตอร์ต้องได้รับการปกป้องจากภัยธรรมชาติ ภัยธรรมชาติอาจเกิดขึ้นได้ยาก แต่สำหรับพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงนั้น คำถามสำคัญคือภัยธรรมชาติจะเกิดขึ้นเมื่อใด ไม่ใช่จะเกิดขึ้นหรือไม่ เหตุการณ์ทางธรรมชาติที่อาจส่งผลกระทบต่อดาต้าเซ็นเตอร์ ได้แก่ พายุที่มีความรุนแรง (เช่น พายุไต้ฝุ่นและพายุทอร์นาโด) ฟ้าร้องและฟ้าผ่า (ซึ่งอาจส่งผลต่อการจ่ายกระแสไฟฟ้า) แผ่นดินไหว สึนามิ น้ำท่วม ดินถล่ม ภูเขาไฟระเบิด พายุหิมะ และไฟไหม้

ปัจจัยที่สองที่ควรพิจารณา คือ แหล่งพลังงาน แหล่งพลังงานที่เชื่อถือได้เปรียบเสมือนหัวใจหลักของการดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ และควรเป็นแหล่งพลังงานที่เข้าถึงได้ง่ายด้วย ดาต้าเซ็นเตอร์จึงมักถูกสร้างขึ้นใกล้แหล่งพลังงาน และเนื่องจากไฟฟ้าเป็นต้นทุนที่สูงที่สุดเพียงสิ่งเดียวในการบริหารดาต้าเซ็นเตอร์ ค่าไฟจึงต้องมีราคาถูก เช่น ในสหรัฐอเมริกา รัฐวอชิงตันคือตัวเลือกยอดนิยมสำหรับการตั้งดาต้าเซ็นเตอร์ เนื่องจากมีโรงไฟฟ้าพลังน้ำตั้งอยู่มากมายและสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าที่ราคาไม่แพง เข้าถึงได้ง่าย และมีปริมาณมาก

สิ่งสุดท้าย คือ บริษัทดาต้าเซ็นเตอร์ต้องคำนึงถึงปัจจัยทางเศรษฐกิจด้วย ต้นทุนในการซื้อที่ดินและการก่อสร้างดาต้าเซ็นเตอร์มีความสำคัญมาก เช่น การสร้างดาต้าเซ็นเตอร์ในย่านใจกลางธุรกิจของสิงคโปร์ย่อมมีค่าใช้จ่ายมากกว่าการสร้างดาต้าเซ็นเตอร์รูปแบบเดียวกันบริเวณใกล้เขื่อนทางภาคเหนือของลาว ถ้าเช่นนั้นจะหมายความว่าเราควรสร้างดาต้าเซ็นเตอร์ในพื้นที่ที่ห่างไกลซึ่งมีต้นทุนถูกและมีความเสี่ยงที่จะเกิดภัยธรรมชาติน้อยใช่หรือไม่ คำตอบคือไม่จำเป็น เพราะพื้นที่ดังกล่าวอาจไม่สามารถเข้าถึงสายเคเบิลใยแก้วนำแสงที่จำเป็นสำหรับการทำงานของดาต้าเซ็นเตอร์ และอาจยังไม่มีแรงงานที่มีคุณภาพเพียงพอ รวมถึงอาจต้องมีค่าใช้จ่ายสูงในการดึงดูดพนักงานที่มีความสามารถให้เข้ามาทำงาน อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้สามารถชดเชยได้ด้วยมาตรการจูงใจด้านภาษีของรัฐบาลท้องถิ่น ดังนั้นจึงมีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้องที่ควรคำนึงถึง

อนาคตข้างหน้า

โลกกำลังก้าวไปสู่อนาคตที่ดาต้าเซ็นเตอร์จะมีบทบาทสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ เราจึงจำเป็นที่จะต้องทำความเข้าใจว่าดาต้าเซ็นเตอร์คืออะไร เพราะเหตุใดจึงมีความสำคัญสำหรับธุรกิจของคุณ และเพราะเหตุใดทำเลที่ตั้งจึงมีความสำคัญอย่างมากสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ ซีบีอาร์อีหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ท่านเข้าใจเรื่องที่เป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับธุรกิจในอนาคตมากขึ้น

ประโยชน์ของการมี Data Center

มีมากมายหลายประการที่องค์กรจะได้รับเมื่อมี Data Center ที่ดี ดังนี้

  • ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย

องค์กรสามารถประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บและจัดการข้อมูลได้ ด้วยการใช้ Data Center องค์กรสามารถจัดเก็บข้อมูลทั้งหมดไว้ในที่เดียว ซึ่งจะช่วยลดจำนวนอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลและพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่จำเป็น นอกจากนี้ องค์กรยังสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลและพื้นที่จัดเก็บข้อมูลได้อีกด้วย

  • เพิ่มความปลอดภัยของข้อมูล

Data Center มักมีระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดกว่าอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลทั่วไป ซึ่งจะช่วยปกป้องข้อมูลขององค์กรจากภัยคุกคามต่างๆ เช่น การโจมตีทางไซเบอร์ การโจรกรรมข้อมูล และภัยธรรมชาติ

  • ช่วยให้องค์กรเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

Data Center มักมีการเชื่อมต่อเครือข่ายที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยให้องค์กรสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อองค์กรในหลายด้าน เช่น การขาย การตลาด บริการลูกค้า และอื่นๆ

ประเภทของ Data Center

มี 3 ประเภทหลักของ Data Center ได้แก่

  • Colocation Data Center

Colocation Data Center เป็น Data Center ที่องค์กรเช่าพื้นที่เพื่อจัดเก็บและจัดการข้อมูล องค์กรไม่จำเป็นต้องลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของ Data Center เอง ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและความเสี่ยง

  • Managed Data Center

Managed Data Center เป็น Data Center ที่องค์กรใช้บริการการจัดการข้อมูลจากผู้ให้บริการ Data Center ผู้ให้บริการ Data Center จะรับผิดชอบในการดูแลรักษาอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล เครือข่าย และระบบความปลอดภัยของ Data Center ซึ่งจะช่วยลดภาระงานขององค์กร

  • Unmanaged Data Center

Unmanaged Data Center เป็น Data Center ที่องค์กรจัดเก็บและจัดการข้อมูลเอง องค์กรต้องลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของ Data Center เอง และรับผิดชอบในการดูแลรักษาอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล เครือข่าย และระบบความปลอดภัยของ Data Center ซึ่งจะต้องใช้ความเชี่ยวชาญและทรัพยากรจำนวนมาก

การเลือก Data Center

ในการเลือก Data Center องค์กรควรพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้

  • ขนาดขององค์กร

องค์กรควรเลือก Data Center ที่มีขนาดที่เหมาะสมกับความต้องการขององค์กร องค์กรขนาดเล็กอาจไม่จำเป็นต้องใช้ Data Center ขนาดใหญ่ ในขณะที่องค์กรขนาดใหญ่อาจจำเป็นต้องใช้ Data Center ขนาดใหญ่

  • ประเภทของข้อมูล

องค์กรควรเลือก Data Center ที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมสำหรับประเภทของข้อมูลที่จะจัดเก็บ องค์กรที่เก็บข้อมูลสำคัญ เช่น ข้อมูลลูกค้า ข้อมูลการเงิน และข้อมูลทางกฎหมาย ควรเลือก Data Center ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด

  • ความพร้อมใช้งาน

องค์กรควรเลือก Data Center ที่มีความพร้อมใช้งานสูง องค์กรควรเลือก Data Center ที่มีระบบสำรองไฟและระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพ

  • ราคา

องค์กรควรเลือก Data Center ที่มีราคาที่เหมาะสม องค์กรควรเปรียบเทียบราคาของ Data Center ต่างๆ ก่อนที่จะตัดสินใจเลือก

ข้อควรพิจารณาในการมี Data Center

องค์กรควรคำนึงถึงข้อควรพิจารณาต่อไปนี้ในการมี Data Center

  • ต้นทุน

การมี Data Center อาจมีต้นทุนสูง องค์กรควรพิจารณาค่าใช้จ่ายในการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของ Data Center ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา Data Center และค่าใช้จ่ายในการใช้บริการ Data Center จากผู้ให้บริการ Data Center

  • ความปลอดภัย

Data Center เป็นเป้าหมายของการโจมตีทางไซเบอร์ องค์กรควรลงทุนในระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดเพื่อปกป้องข้อมูลขององค์กร

  • ความพร้อมใช้งาน

Data Center ควรมีความพร้อมใช้งานสูง องค์กรควรเลือก Data Center ที่มีระบบสำรองไฟและระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพ

สรุป

การมีศูนย์กลางการเก็บข้อมูล (Data Center) ที่ดีจะช่วยองค์กรประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย เพิ่มความปลอดภัยของข้อมูล และช่วยให้องค์กรสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ องค์กรควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ในการเลือก Data Center ที่เหมาะสมกับความต้องการขององค์กร

งานคุณภาพ

งานวิจัย